เบอร์มงคลคืออะไร ทำไมมีผลกับผู้ใช้งาน

เบอร์มงคลคือศาสตร์แห่งตัวเลขแขนงใหม่ ที่จะนำเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้งานมาคิดคำนวณออกมาตามสูตรที่โหราจารย์คิดไว้ พร้อมมีการนำผลลัพธ์มาตีความหมายเพื่อดูเวลาเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวนั้นส่งผลดีกับผู้ใช้งานหรือไม่ โดยมีความเชื่อว่าหากมีเลขที่ดีจะทำให้อนาคตของผู้ใช้โทรศัพท์เบอร์นั้นดีขึ้นตาม แต่ถ้าคำนวณออกมาแล้วส่งผลด้านลบก็จะทำให้ผู้ใช้งานเบอร์นั้นประสบอุปสรรคต่าง ๆ ในการใช้ชีวิตด้วย เลขมงคลในเบอร์โทรศัพท์นั้นส่งผลกับผู้ใช้งานในสังคมไทยกันเป็นวงกว้าง แม้แต่ค่ายโทรศัพท์ผู้ให้บริการเองก็ยังจัดโปรโมชั่นให้จับจองเลขมงคลอยู่บ่อย ๆ อีกด้วย

แม้ว่าการคำนวณเบอร์มงคลนั้นจะเป็นเพียงความเชื่อที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีหลายคนโดยเฉพาะคนดังอย่างดารา นักธุรกิจ เซเลป และใครอีกหลายคนนั้นมีความเชื่อเรื่องเลขเบอร์มงคลกันแทบทั้งสิ้น แต่จะดีจริงหรือไม่จริงเพียงใด เราขอแนะนำว่าให้คุณลองใช้วิจารณญาณพิสูจน์เองย่อมดีที่สุด

วิธีคำนวณเบอร์มงคล ต้องทำอย่างไร?

การคำนวณเบอร์มงคลนั้นบอกได้ว่าแต่ละโหราจารย์นั้นมีศาสตร์การคำนวณที่ไม่เหมือนกัน บางสูตรอาจนำตัวเลขแต่ละหลักมาบวกกันแล้วคำนวณดูจากผลรวม บางสูตรอาจนำศาสตร์ดวงชะตาด้านอื่นมาประกอบแล้วเลือกตัวเลขที่เป็นมงคล หากคุณไม่รู้ว่าเบอร์ที่คุณใช้อยู่เป็นเลขมงคลหรือไม่ คุณอาจหาผลลัพธ์ง่าย ๆ จากการใช้งานเว็บไซต์คำนวณเลขมงคลได้ทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าเจาะลึกลงไปกว่านั้นก็จะทำให้คุณได้เข้าใจที่มาที่ไปของการคำนวณอย่างแท้จริง

สำหรับการคำนวณหาเบอร์มงคลนั้น วิธีที่นิยมใช้งานและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดก็คือ “การคำนวณจากระบบคู่” ของเบอร์โทรศัพท์คุณนั่นเอง ซึ่งมีวิธีคำนวณดังนี้

1. ตัดตัวเลข 3 หลักตัวหน้าทิ้ง ไม่ต้องนำมาคำนวณ เช่น เบอร์โทรศัพท์คุณคือ 081-283-4769 ก็ให้ตัดเลข 081 ด้านหน้าออก เพราะเป็นเลขตายตัวที่ถูกกำหนดมาโดยผู้ให้บริการโทรศัพท์ ให้นำเลขข้างหลังอย่าง 283-4769 มาคำนวณแทน

2. ประกบเลขที่อยู่ติดกันเป็นคู่ดังนี้ 

– เลขหลักที่ 1 คู่กับเลขหลักที่ 2 ซึ่งกรณีตามตัวอย่างนี้คือเลข 28

– เลขหลักที่ 2 คู่กับเลขหลักที่ 3 ซึ่งกรณีตามตัวอย่างนี้คือเลข 83 

– เลขหลักที่ 3 คู่กับเลขหลักที่ 4 ซึ่งกรณีตามตัวอย่างนี้คือเลข 34 

– เลขหลักที่ 4 คู่กับเลขหลักที่ 5 ซึ่งกรณีตามตัวอย่างนี้คือเลข 47

– เลขหลักที่ 5 คู่กับเลขหลักที่ 6 ซึ่งกรณีตามตัวอย่างนี้คือเลข 76

– เลขหลักที่ 6 คู่กับเลขหลักที่ 7 ซึ่งกรณีตามตัวอย่างนี้คือเลข 96

สรุปแล้วเราจะได้เลขมาทั้งหมด 6 คู่คือ

คู่ที่ 1 ได้เลข 28

คู่ที่ 2 ได้เลข 83

คู่ที่ 3 ได้เลข 34

คู่ที่ 4 ได้เลข 47

คู่ที่ 5 ได้เลข 76

คู่ที่ 6 ได้เลข 96

ขออธิบายให้เห็นภาพอีกคือ ถ้าเลขโทรศัพท์ตามหลักเลขเป็น ABC-DEF-GHIJ เลขคู่แรกจะเป็น DE, เลขคู่ที่สองจะเป็น EF, เลขคู่ที่สามจะเป็น FG, เลขคู่ที่สี่จะเป็น GH, เลขคู่ที่ห้าจะเป็น HI, และเลขคู่ที่ 6 จะเป็น IJ (ตัด A, B, C, ออกไม่เอามาคำนวณ)

3. จากนั้นเปิดตารางทำนายคู่เลขมงคลและเลขอัปมงคล โดยเทียบทั้งคู่เลขทั้ง 6 เลขของคุณเลย หากมีคู่ไหนหลุดมาเป็นเลขอัปมงคลก็ให้พิจารณาเปลี่ยนใหม่เป็นเลขเบอร์มงคลแทน

โดยข้อมูลคู่เลขมงคลที่ดีจะเป็นคู่เลขดังนี้ – เลข 14, 15, 16, 19, 22, 23 ,24, 26, 28, 29, 32, 35, 36, 39, 41, 42, 44, 45, 46, 49, 51, 53, 54, 55, 56, 59, 61, 62, 63, 64, 65, 66, 69, 78, 79, 82, 87, 89, 91, 92, 93, 94, 95, 96, 97, 98, 99

ส่วนคู่เลขอัปมงคลที่ควรหลีกเลี่ยงคือ – เลข 00, 01, 02, 03, 04, 05, 06, 07, 08, 09, 10, 11, 12, 13, 14, 17, 18, 20, 21, 25, 27, 30, 31, 33, 34, 37, 38, 40, 43, 47, 48, 50, 52, 57, 58, 60, 67, 68, 70, 71, 72, 73, 74, 75, 76, 77, 80, 81, 83, 84, 85, 86, 88

หรือสรุปง่าย ๆ คือให้คุณพยายามเลี่ยงเลข 0, เลข 7, และเลข 8 ไว้เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นเลขอับโชคนั่นเอง นอกจากนี้เลขแต่ละคู่นั่นก็มีความหมายในตัวเองคือ

– เลขคู่ตัวที่ 1 และ 2 หรือเลขสองคู่หน้า จะหมายถึงบุคลิกภายนอกและสเน่ห์ของผู้ใช้งาน รวมถึง First Impression กับคนรอบข้าง

– เลขคู่ตัวที่ 3 และ 4 หรือเลขสองคู่กลาง จะเป็นเลขที่สื่อถึงพลังบวกแบบรวม ๆ ตลอดจนความชื่นชอบและ รสนิยม 

– เลขคู่ตัวที่ 5 และ 6 หรือเลขสองคู่หลัง จะสื่อถึงการเก็บเงิน และการตัดสินใจต่าง ๆ

4. หลังจากได้คู่เลขเบอร์มงคลมาแล้ว คุณสามารถเสริมดวงชะตาในแต่ละด้านให้ลึกลงไปอีกได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น คู่เบอร์ที่ส่งเสริมเรื่องการงาน ความรัก การเรียน สุขภาพ เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถดูคู่เลขเบอร์มงคลได้จากโหราจารย์ชั้นนำ